วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
28 ม.ค. 68 - 04 ก.พ. 68 | 59,900 บาท | 6,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
10 ก.พ. 68 - 17 ก.พ. 68 | 61,900 บาท | 6,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
24 ก.พ. 68 - 03 มี.ค. 68 | 62,900 บาท | 6,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
03 มี.ค. 68 - 10 มี.ค. 68 | 62,900 บาท | 6,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
17 มี.ค. 68 - 24 มี.ค. 68 | 62,900 บาท | 6,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
24 มี.ค. 68 - 31 มี.ค. 68 | 62,900 บาท | 6,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
20.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 4 สายการบิน Turkish Airlines เพื่อเช็คสัมภาระ และรับเอกสารการเดินทาง Passport หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำคณะไปเช็คอิน
22.55 น. ออกเดินทางสู่เมืองทบิลิซีด้วยเที่ยวบิน TK069
06.10 น. เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
07.45 น. เดินทางต่อสู่ทบิลิซี ด้วยเที่ยวบิน TK378
11.10 น. นำท่านเดินทางถึงเมืองทบิลิซี (Tbilisi) โดยเมืองทบิลิซีนั้น เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของจอร์เจีย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคูรา (Kura) หรือเรียกว่า แม่น้ำมตควารี (Mtkvari) ในภาษาท้องถิ่น ทบิลิซิ มีเนื้อที่ประมาณ 372 ตร.กม. และมีประชากรประมาณ 1.1 ล้านคน เมืองนี้ถูกสร้างโดย วาคตัง จอร์กาซาลี (Vakhtang Gorgasali) กษัตริย์จอร์เจียแห่งคาร์ตลี (ไอบีเรีย) ได้ก่อตั้งเมืองนี้ขึ้นในคริสตศตวรรษที่ 4 เมืองทบิลิซิเป็นศูนย์กลางการทำอุตสาหกรรม สังคมและวัฒนธรรมในภูมิภาคคอเคซัส ในประวัติศาสตร์เมืองนี้อยู่ในสายทางหนึ่งของเส้นทางสายไหม และปัจจุบันยังมีบทบาทสำคัญในฐานะศูนย์กลางการขนส่งและการค้า เนื่องจากความได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ในแง่ที่ตั้งที่เป็นจุดตัดระหว่างทวีปเอเชียกับทวีปยุโรป นำท่านเข้าชม วิหารศักดิ์สิทธิ์ของทบิลิซี (Holy Trinity Cathedral) ที่เรียกกันว่า Sameba เป็นโบสถ์หลักของคริสตจักรออร์โธดอกจอร์เจียตั้งอยู่ในทบิลิซีเมืองหลวงของจอร์เจีย สร้างขึ้นระหว่างปี 1995 และปี 2004 และเป็นวิหารที่สูงที่สุด อันดับที่ 3 ของโบสถ์ออร์โธด็อกในโลก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชม โบสถ์เมเคตี (Metekhi Church) เป็นโบสถ์เก่าแก่ที่สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12 ตั้งอยู่บริเวณริมหน้าผาที่เบื้องล่างเป็นแม่น้ำมิตคาวารี ในอดีตถูกใช้เป็นป้อมปราการ และที่พำนักของกษัตริย์ ในบริเวณเดียวกัน หลังจากนั้นนำท่านขึ้น กระเช้าไฟฟ้าชมป้อมนาริกาลา(Narikala Fortress) ซึ่งเป็นป้อมปราการหินโบราณขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนเนินเขา สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 4 ผ่านผู้ปกครองมาหลายยุคหลายสมัยที่ต่างผลัดกันเข้ามารุกรานนครเล็กๆ บนเส้นทางสายไหมแห่งนี้ ราชวงศ์อุมัยยัดของชาวอาหรับได้ต่อเติมป้อมในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 7 ต่อมาพวกมองโกลตั้งชื่อให้ใหม่ว่า Narin Qala แปลว่าป้อมน้อย (Little Fortress) นักประวัติศาสตร์ยกย่องว่าป้อมนาริกาลาเป็นป้อมแห่งหนึ่งบน เส้นทางสายไหมที่แข็งแกร่งและตีได้ยากที่สุด จากนั้นนำท่านถ่ายรูป อนุสาวรีย์มารดาแห่งจอร์เจีย (MOTHER OF GEORGIA) อนุสาวรีย์สัญลักษณ์สำคัญที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองราวกับกำลังเฝ้ามองผู้คน มีอีกชื่อหนึ่งคือ มารดาคาร์ทลิส และ คาร์ทลิส เดดา เป็นประติมากรรมที่ตั้งอยู่บนยอดเยาโซโลลากีเพื่อฉลองที่ทบิลิซีครบครอบ 1,500 ปี จากนั้นนำท่านชมโรงอาบน้ำโบราณ หรือ อะบานู อุบานิ (Abanotubani) เป็นสถานที่สาหรับแช่น้ำพุร้อนที่มีแร่ถามะถัน ตามตำนานเล่าขานว่าในสมัยพระเจ้าวัคตังที่ 1 กอร์กัซลี่นกเหยี่ยวของพระองค์ได้ตกลงไปในบริเวณดังกล่าว จึงทำให้ค้นพบบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ขึ้น ลักษณะคล้ายโรงอาบน้ำเหมือนกับการออนเซ็นของชาวญี่ปุ่นผสมรวมกับการอาบน้ำแบบตุรกี หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ถนนชาดินี่ (Shardini Street) ถนนคนเดินย่ายเมืองเก่า เป็นแหล่งศูนย์รวมทางวัฒนธรรมและสังคมของกรุงทบิลิซี อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย หลังจากนั้นนำท่านถ่ายภาพกับสะพานสันติภาพ (Bridge Of Peace) สะพานข้ามแม่น้ำคูราที่ใช้เชื่อมระหว่างตัวเมืองเก่าและตัวเมืองใหม่ โดยตัวสะพานเป็นเหล็กและกระจกใสมีความยาว 150 เมตร เปิดใช้งานเมื่อปี 2010 ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่สวยงามของจอเจียร์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก GINO SEASIDE หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่อนุเสาวรีย์ประวัติศาสตร์จอร์เจีย (The Chronicle of Georgia) ซึ่งมีลักษณะเป็นแท่งหินสีดำขนาดใหญ่ แกะสลักเป็นรูปต่างๆที่สื่อถึงเรื่องราวในอดีตของประเทศจอร์เจีย สร้างขึ้นโดย ซุราป สถาปนิกชื่อดังก่อสร้างเมื่อปี 1985 ประกอบด้วยแท่งเสา 16 แท่ง แต่ละแท่งสูง 35 เมตร แต่ละเสาจะแบ่งเรื่องราวออกเป็น 3 ส่วนนั่นคือ ส่วนล่างสุดเกี่ยวกับพระคัมภัร์ของศาสนาคริสต์ ส่วนกลางเกี่ยวกับเรื่องของข้าราชการชนชั้นสูงของจอร์เจีย และส่วนบนเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญต่างๆของประเทศ ท่านสามารถชมวิวเมืองจากมุมสูงได้จากสถานที่แห่งนี้
นำท่านถ่ายรูปคู่กับอ่างเก็บน้ำชินวารี (Zhinvali Reservoir) และยังมีเขื่อนซึ่งเป็นสถานที่สำคัญสำหรับนำน้ำที่เก็บไว้ส่งต่อไปยังเมืองหลวงและใช้ผลิตไฟฟ้า ซึ่งทำให้ชาวเมืองทบิลิซีมีน้ำไว้ดื่มไว้ นำท่านเดินทางสู่เมืองมิสเคต้า (Mtskheta) ซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของประเทศจอร์เจียสมัยอาณาจักรไอบีเรีย (Kingdom of Iberia) ซึ่งเป็นราชอาณาจักรของจอร์เจียในช่วง 500 ปีก่อนคริสตกาลตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือห่างจากกรุงทบิลิซี ประมาณ 20 กม. เมืองนี้ถือได้ว่าเป็นเมืองที่มีความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของประเทศ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1994 นำท่านชมวิหารจวารี (Jvari Monastery) หรือโบสถ์แห่งไม้กางเขนอันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาคริสต์นิกายออโธด๊อก สร้างขึ้นเมื่อคริสตวรรษที่ 6 ชาวจอร์เจียสักการะนับถือวิหารแห่งนี้เป็นอย่างมาก ภายในโบสถ์มีไม้กางเขนขนาดใหญ่ โบสถ์นี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่มีแม่น้ำสองสายมาบรรจบกันคือแม่น้ำมิควารี (Mtkvari river) และแม่น้ำอรักวี (Aragvi river) จากนั้นนำท่านชมวิหารสเวติสโคเวลี (Svetitskhoveli Cathedral) หรือหมายถึงเสาที่มีชีวิต(The Living Pillar Cathedral) สร้างราวศตวรรษที่ 11 โบสถ์แห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของจอร์เจีย สร้างขึ้นโดยสถาปนิกชาวจอร์เจีย ชื่อ Arsukisdze มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่ทำให้ชาวจอร์เจียเปลี่ยนความเชื่อและหันมานับถือศาสนาคริสต์ และให้ศาสนาคริสต์มาเป็นศาสนาประจำชาติของจอร์เจียเมื่อปี ค.ศ.337 และถือเป็นสิ่งก่อสร้างยุคโบราณที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย ภายในมีภาพเขียนสีเฟรสโก้อย่างงดงาม
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางต่อไปยังเมืองคาซเบกี้ (Kazbegi) หรือปัจจุบันเรียกว่า เมืองสเตปันสมินดา(Stepansminda) ชื่อนี้เพิ่งเปลี่ยนเมื่อปี 2006 หลังจากนักบุญนิกายออร์โธด๊อก ชื่อ สเตฟาน ได้มาพำนักอาศัยและก่อสร้างสถานที่สำหรับจำศีลภาวนาขึ้น เมืองนี้อยู่ห่างจากเมืองหลวงทบิลิซี ประมาณ 157 กิโลเมตร เป็นเมืองเล็กๆตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเทอร์กี้ ถือเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวบนเทือกเขาคอเคซัส (Caucasus) ที่สำคัญของประเทศจอร์เจีย มีภูมิทัศน์ที่สวยงามโดยรอบ รวมทั้งเป็นจุดชมวิวของยอดเขาคาซเบกี้อีกด้วย จากนั้นนำท่านขึ้นรถ 4WD (รถขับเคลื่อน 4 ล้อ) เพื่อเข้าสู่ใจกลางหุบเขาคอเคซัส(Caucasus) นำท่านชมความสวยงามของโบสถ์เกอร์เกตี้ (Gergeti Trinity Church) หรือเรียกว่าโบสถ์สมินดา ซาเมบา (Tsminda Sameba) สร้างด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นโบสถ์ชื่อดังกลางหุบเขาคอเคซัส ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญหนึ่งของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่บนเทือกเขาคาซเบกี้ ที่ระดับความสูงจากน้ำทะเล 2,170 เมตร (***ในกรณีที่มีหิมะตกหนัก จนไม่สามารถเดินทางได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ ปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามความเหมาะสม***)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก ROOMS HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านออกเดินทางไปยังเมืองกูดาอูรี (Gudauri) ไปตามทางเส้นทางหลวงที่สำคัญของจอร์เจียที่มีชื่อว่า Georgian Military Highway หรือเส้นทางสำหรับใช้ในด้านทหาร ถนนสายนี้เป็นถนนสายสำคัญที่สุดที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยที่จอร์เจียอยู่ภายใต้การควบคุมจากสหภาพโซเวียต เพื่อใช้เป็นเส้นทางหลักในการข้ามเทือกเขาคอเคซัสจากรัสเซียมายังที่ภูมิภาคนี้ ถนนแห่งประวัติศาสตร์นี้เป็นเส้นทางที่จะนำท่านขึ้นสู่เทือกเขาคอเคซัส (Caucasus Mountain) เป็นเทือกเขาที่ตั้งอยู่ระหว่างทวีปยุโรป และเอเชีย ประกอบด้วย 2 ส่วน คือเทือกเขาคอเคซัสใหญ่ และเทือกเขาคอเคซัสน้อย ที่มีความยาวประมาณ 1,100 กม. ที่เป็นเส้นกั้นระหว่างพรมแดนรัสเซียกับจอร์เจีย นำท่าน นั่งกระเช้าไฟฟ้าโคบิ-กูดาอูรี (Kobi Cable Car) เป็นกระเช้าไฟฟ้าของเมืองกูดาอูรี เป็นกระเช้าสายเดียวแบบ Gondola บรรทุกได้ประมาณ 10 ท่าน/เที่ยว โดยสถานีหลักอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 2,000 เมตร และจุดสูงสุดของสถานีมีความสูงอยู่ที่ 2,500 เมตร ระยะทางประมาณเกือบ 3 กิโลเมตร ท่านจะได้สัมผัสกับวิวของเทือกเขาบนกระเช้าไฟฟ้าแบบ 360 องศา *หมายเหตุ: กรณีกระเช้าปิด หรือมีเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถขึ้นได้ ขอสงวนสิทธิ์การคืนเงิน หรือเปลี่ยนแปลงรายการ เนื่องจากบริษัทฯได้ชำระค่าบริการล่วงหน้าให้กับตัวแทนเรียบร้อยก่อนการเดินทางแล้ว *** กระเช้าโคบิจะเปิดทำการถึงช่วงกลางเดือนเมษายน 68 หรือจนกว่าหิมะจะหมดเท่านั้น *
นำท่านชม อนุสรณ์สถานรัสเซีย-จอร์เจีย(Memorial of Friendship) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Russia–Georgia Friendship Monument เป็นอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นมาในปี ค.ศ. 1983 เพื่อเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความสัมพันธ์อันดีของประเทศจอร์เจียและประเทศรัสเซีย โครงสร้างทั้งหมดทำมาจากหินและคอนกรีต ภายในมีการวาดภาพประวัติศาสตร์ของประเทศจอร์เจียและประเทศรัสเซียไว้อย่างสวยงาม ให้ท่านได้อิสระถ่ายรูปบรรยากาศและทิวทัศน์อันสวยงาม นำท่านเดินทางต่อสู่เมืองอันนานูรี เพื่อชม ป้อมอันนานูรี (Ananuri Fortress) ป้อมปราการเก่าแก่ มีกำแพงล้อมรอบตั้งอยู่ริมแม่น้ำอรักวี ถูกสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่16-17 ชมความงดงามขอโบสถ์ 2 หลังที่ตั้งอยู่ภายในกำแพง ซึ่งเป็นโบสถ์ของชาวเวอร์จิ้น ภายในยังมีหอคอยทรงสี่เหลี่ยมใหญ่ที่ตั้งตระหง่าน ทำให้เห็นทัศนีย์ภาพทิวทัศน์อันสวยงามด้านล่างจากมุมสูงของป้อมปราการนี้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองอัพลิสต์ชิเคห์ (Uplistsikhe) ซึ่งเป็นเมืองถ้ำเก่าแก่ของจอร์เจีย ในอดีตเป็นเส้นทางการค้าขายสินค้าจากอินเดียไปยังทะเลดำและต่อไปถึงทางตะวันตก ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ ส่วนเหนือ ส่วนกลาง และส่วนใต้ ซึ่งส่วนกลางจะเป็นบริเวณที่ใหม่ที่สุด ประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรมการสร้างตัดหินและเจาะลึกเข้าไปเป็นที่อยู่อาศัย ถ้ำส่วนมากจะไม่มีการตกแต่งภายในใดๆ และยังมีห้องต่างๆ ซึ่งคาดว่าเป็นโบสถ์เก่าแก่ของชาวคริสต์ ที่สร้างขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 9 ให้ท่านอิสระชมหมู่บ้านที่สร้างขึ้นจากถ้ำนี้ตามอัธยาศัย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองกอรี(Gori) โดยเมืองนี้เป็นเมืองบ้านเกิดของ โจเซฟ สตาลิน (Joseph Stalin) ชาวจอร์เจียที่ในอดีตเป็นผู้ปกครองสหภาพโซเวียต ในยุคศตวรรษที่ 1920 ถึง 1950 และมีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยมในการปกครองในเมืองกอรีแห่งนี้ นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์ของท่านสตาลิน (Musuem of Stalin) ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราว และสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ของสตาลินเอาไว้ รวมไปถึงตัวอาคารที่สตาลินเกิด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก GORI INN หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองบอร์โจมี (Borjomi) ซึ่งเป็นเมืองตากอากาศเล็กๆในหุบเขาทางตอนใต้ของประเทศจอร์เจีย มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 15,000 คน บอร์โจมีเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในด้านน้ำแร่ระดับโลก เพราะมีลำธารน้ำที่ใส บริสุทธิ์ที่ไหลมาจากยอดเขาบาคูเรียนี (Bakuriani Mountain) ที่มีความสูงประมาณ 2,300 เมตร ที่ถูกค้นพบโดยนายทหารรัสเซีย โดยในอดีตชาวเมืองเชื่อกันว่าถ้าดื่มน้ำนี้จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงและสามารถรักษาโรคร้ายได้ และต่อมาได้เริ่มมีการตั้งโรงงานผลิตและส่งออกน้ำแร่ยี่ห้อบอร์โจมี (Borjomi) ที่มีชื่อเสียงไปยังประเทศต่างๆ มากมาย นำท่านเข้าชมสวนบอร์โจมี่ (Borjomi park) สถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนของชาวเมืองบอร์โจมี่ ที่นิยมมาเดินเล่นและผ่อน คลายโดยการแช่น้ำแร่ในวันหยุด อิสระให้ท่านเก็บภาพวิวทิวทัศน์ ธรรมชาติตามอัธยาศัย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่เมืองคูไตซี (Kutaisi) ที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เมืองนี้มีความเจริญเป็นอันดับสองรองจากทบิลีซี ชมความสวยงามของเมืองคูไทซีซึ่งมีชื่อเสียงทางด้านวัฒนธรรมและได้รับการขึ้นทะเบียน ให้เป็นมรดกโลก ซึ่งถ้าย้อนกลับไปเมื่อสมัยศตวรรษที่ 12-13 ได้เคยเป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของอาณาจักรโคลคลิส (Empire of Colchis) และอาณาจักรอีเมรีเทีย (Kingdom of Emeretia) ที่อยู่ทางด้านของตะวันตกของประเทศ หลังจากนั้นนำท่านถ่ายรุปคู่กับ สวนสวยงามประจำเมืองคูไตซี นำท่านถ่ายรูปคู่ น้ำพุโคลซิส (Colchis Fountain) ที่มีชื่อเสียงซึ่งสร้างขึ้นในปี 2011 เป็นโครงสร้างแบบลดหลั่นที่แสดงถึงตำนานของโคลซิสโบราณ จากนั้นนำท่านชม อารามจีลาติ (Gelati Monastery) ซึ่งเป็นอารามหลวงของเมือง ถูกค้นพบในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12 โดยทางองค์การยูเนสโกได้ประกาศให้อารามจีลาตินี้ขึ้นเป็นมรดกโลกเมื่อ ปี ค.ศ.1994 ภายในบริเวณอารามแบ่งเป็นสองส่วนคือโบสถ์เซนต์ นิโคลาส (St. Nicholas) และโบสถ์เซนต์ จอร์จ (St.George) โดยในโบสถ์เซนต์นิโคลัสนั้น มีภาพเขียนสีเฟรสโกที่สวยงามตระการตามากมายหลายภาพเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับคริสต์ศาสนา ที่ยังคงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ โดยบริเวณตรงโดมขนาดใหญ่ของโบสถ์ซึ่งเป็นภาพพระแม่มารีนั้น ใช้กระเบื้อง โมเสกสีทองประดับประดากว่า 2 ล้านชิ้น
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก KUTAISI INN หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านชมมหาวิหารบากราติ (Bagradi Cathedral) ที่ตั้งชื่อตามพระเจ้าบากราตที่ 3 กษัตริย์ผู้ทรงรวมจอร์เจีย สร้างขึ้นในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 10 ตั้งอยู่ในเมืองคูไตซี โดยมหาวิหารแห่งนี้แม้จะถูกพวกเติร์กทำลายไปบางส่วน แต่ซากปรักหักพังของโบสถ์ก็ยังปรากฏจนถึงทุกวันนี้ โดยได้มีการบูรณะมาโดยตลอด ซึ่งสะท้อนถึงสถาปัตยกรรมยุคกลางได้อย่างเด่นชัด
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านเดินทางต่อสู่เมือง Tskaltubo เมืองที่อยู่ห่างจากบาทูมิไปประมาณ 3 ชั่วโมง นำท่านชม ถ้ำโพรมิธีอุส (Prometheus Cave) เป็นหนึ่งในถ้ำอันน่าอัศจรรย์ของชาวจอร์เจีย ถูกค้นพบครั้งแรกปี ค.ศ.1984 และถูกตกแต่งใหม่เมื่อปี ค.ศ.2012 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่มาเข้าชมมากมายในแต่ละปี พบความสวยงามของหินงอกหินย้อยที่สะท้อนแสงสีตระการตาภายในตัวถ้ำ นำท่านเดินทางสู่ เมืองบาทูมิ (Batumi) โดยเมืองบาทูมินั้นเป็นเมืองท่าชายทะเลและหนึ่งในเมืองเศรษฐกิจที่สําคัญ ของประเทศจอร์เจีย ตัวเมืองตั้งอยู่ติดทะเลดำ ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เมืองบาทูมิเป็นเมืองหลวงของจังหวัดอัตจารา (Ajara) ที่ปกครองตนเอง เป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญในด้านการค้าและเป็นศูนย์กลางการพาณิชย์ นอกจากนั้นยังเป็นที่ตั้งของเมืองในเขตร้อนที่เต็มไปด้วยผลิตผลของพืชผัก ผลไม้ต่างๆหลายอย่าง และที่สำคัญยังมีโรงงานอุตสาหกรรมที่สำคัญมากมายๆต่างๆของเมืองอีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก GRAND GLORIA หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านถ่ายรูปคู่กับอนุสาวรีย์อาลีและนีโน่ (Ali and Nino Monument) ซึ่งเป็นงานสถาปัตยกรรมโลหะสมัยใหม่รูปคู่รักชายชาวอาเซอร์ไบจานและหญิงสาวชาวจอร์เจียนในนวนิยายท้องถิ่น มีขนาดสูง 8 เมตร ตั้งอยู่ริมทะเลดำที่จะเคลื่อนไหวได้ทุกๆ 10 นาที ถูกสร้างขึ้นเพื่อแสดงถึงความรักของหนุ่มสาวต่างเชื้อชาติและศาสนา และยังแสดงถึงสันติภาพระหว่างประเทศจอร์เจีย และอาร์เซอไบจานด้วย จากนั้นนำท่านล่องเรือริมฝั่งทะเลดำของบาตูมิ ชมความสวยงามของทะเล บ้านเรือนที่ถูกสร้างขึ้นตามแบบรูปทรงโบราณที่ปลูกกันอย่างสวยงามตามริมทะเล พร้อมกับรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ เป็นไร่ส้ม พืชพันธุ์ธัญญาหารและต้นชา **การล่องเรือนั้นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ กรณีที่ไม่สามารถล่องเรือได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามความเหมาะสม** อิสระให้ท่านได้เที่ยวชมบริเวณทะเลดำ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านชมเมืองเก่าบาทูมิ (Batumi Old Town) ชมบรรยากาศของบ้านเรือนเก่า ชมจตุรัส Piazza Square ที่สร้างขึ้นในปี 2009 เป็นอาคารที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังชาวจอร์เจีย Vazha Orbeladze สร้างด้วยสไตล์สถาปัตยกรรมแบบผสมผสาน นำท่านถ่ายรูปคู่กับ อนุเสาวรีย์เจ้าหญิงมีเดีย (Statue of Medea) อนุเสาวรีย์เจ้าหญิง Colchian แห่งเทพนิยายกรีก จากนั้นนำท่านชมจตุรัสยุโรป (Europe Square) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจตุรัสที่สำคัญในยุโรป จากนั้นนำท่านเดินทางบนถนนเลียบชายหาด (Batumi Promenade) ที่ยาวถึง 6 กิโลเมตร สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1884 ประดับด้วยน้ำพุงดงามตลอดสาย และเป็นถนนที่ยาวที่สุดบนฝั่งทะเลดำ
ได้เวลาอันสมควรนำเดินทางสู่สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำการคืนภาษี (Tax Refund) และมีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
17.25 น. ออกเดินทางกลับสู่สนามบินอิสตันบูล โดยเที่ยวบินที่ TK393
18.40 น. เดินทางถึงสนามบินอิสตันบูล รอเปลี่ยนเครื่อง
19.40 น. ออกเดินทางต่อกลับสู่กรุงเทพด้วยเที่ยวบิน TK064
*** สำหรับคณะที่ออกเดินทางตั้งแต่กุมภาพันธ์เป็นต้นไปจะต่อเครื่องด้วยเที่ยวบิน TK393 เวลา 01.55 น. ของวันถัดไปและจะไปถึงกรุงเทพเวลา 15.10 น.**
08.20 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
1. ค่าตั๋วเครื่องบิน ชั้นประหยัด (Economy Class) ที่ระบุวันเดินทางไปกลับพร้อมคณะ (ในกรณีมีความประสงค์ อยู่ต่อ จะต้องไม่เกินจำนวนวัน และอยู่ภายใต้เงื่อนไขของสายการบิน)
2. ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการ
3. ค่ารถโค้ชปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ
4. ค่าห้องพักในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือเทียบเท่า
5. ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
6. ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการ
7. ค่าประกันภัยการเดินทางรายบุคคล (หากต้องการเงื่อนไขกรมธรรม์สอบถามได้จากเจ้าหน้าที่)
ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทางวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท
ค่ารักษาพยาบาลในกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินไม่เกินท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)
** ลูกค้าท่านใดสนใจ...ซื้อประกันการเดินทางสำหรับครอบคลุมเรื่องสุขภาพสามารถสอบถามข้อมูล เพิ่มเติมกับทางบริษัทได้ **
- เบี้ยประกันเริ่มต้น 341 บาท [ระยะเวลา 4-6 วัน]
- เบี้ยประกันเริ่มต้น 395 บาท [ระยะเวลา 7-10 วัน]
**ความครอบคลุมผู้เอาประกันที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด ถึง 85 ปี **
[รักษาพยาบาล 2 ล้าน, เสียชีวิตหรือเสียอวัยวะจากอุบัติเหตุ 1.5 ล้านบาท]
8. ค่ามัคคุเทศก์ของบริษัทดูแลตลอดการเดินทาง (ไม่รวมทิปมัคคุเทศก์)
9. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (เฉพาะค่าบริการ)
1. ค่าธรรมเนียมการจัดทำหนังสือเดินทาง
2. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่าเครื่องดื่มที่สั่งพิเศษ, ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง, ค่าน้ำหนักเกินจากทางสายการบินกำหนด , ค่ารักษาพยาบาล กรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว, ค่ากระเป๋าเดินทางหรือของมีค่าที่สูญหายในระหว่างการเดินทาง เป็นต้น
3. ค่าธรรมเนียมน้ำมันและภาษีสนามบิน ในกรณีที่สายการบินมีการปรับขึ้นราคา
4. ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเอง
5. ค่าทิปพนักงานขับรถและไกด์ท้องถิ่น (35 USD/ต่อท่าน)
6. ค่าทิปมัคคุเทศก์จากเมืองไทย (24 USD/ต่อท่าน)
สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่เลขที่ 65 ซอยเทิดราชัน 7 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
สำนักงาน 02-128-0215 ต่อ 501 โทรสาร 02-128-0215 ต่อ 101
โทร 093-135-6888 โทร 063-187-1888 โทร 095-329-7676
อาคารไคตัส นาริตะ 47/341 ชั้น5 ห้อง K005006 ถ.ป๊อปปูล่า ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
สาขาดอนเมือง 2/164 ชั้น 7 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
สาขาเพชรบุรี ชินพรรธน์ โชติพิสิฐภัทร(โน๊ต) 592 ม.4 ซ.บันไดอิฐ 5 ต.บ้านหม้อ อ.เมือง จ.เพชรบุรี 76000
Office:032-890362 โทรสาร 032-890362 โทร 086-7445536 โทร 063-1871888
สาขาพิษณุโลก Office: 055-906424 โทรสาร 055-906425 โทร 065-349-8883 โทร 061-568-7999